12 วัดสวย อ่างทอง ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ พิกัดฉบับสายบุญ […]

12 วัดสวย อ่างทอง ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ พิกัดฉบับสายบุญ

วัดสวยในอ่างทองนั้นมีอยู่หลากหลายแห่ง รวมทั้งวัดยาง พระนอน ที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมของวิหารน้อยภายในวัดและได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รวมไปถึงโบราณสถานอย่าง “พระเจดีย์ชัยมงคล” องค์พระเจดีย์เก่าแก่ที่บรรจุพระแก้วมรกตจำลอง หรือจะเป็นวัดขุนอินทประมูล ที่โดดเด่นกับพระพุทธรูป 3 องค์ 3 ศิลปะยุค และอีกหนึ่งวัดที่มีความโดดเด่นด้านศิลปะคือวัดม่วง ศิลปะรัตนโกสินทร์ที่ประดับตกแต่งอย่างงดงาม

วัดยาง พระนอน

เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตัวเมือง สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เดิมชื่อ “วัดท่าเจ้าสนุก” ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดยางพระนอน” ตามชื่อพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารหลังใหญ่กลางวัด องค์พระนอนปางไสยาสน์มีความยาว 39 เมตร และสูง 9 เมตร เป็นองค์พระนอนที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “พระนอนองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” และภายในวิหารหลังใหญ่ยังมีพระประธานองค์สีทองขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางอีกด้วย

วัดขุนอินทประมูล

เป็นวัดโบราณตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อยทางทิศตะวันตกของตัวเมือง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง เดิมชื่อ “วัดหัวถนน” ต่อมาในสมัยอยุธยาตอนปลาย จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดขุนอินทประมูล” ตามชื่อขุนอินทประมูลซึ่งเป็นคหบดีผู้มีจิตศรัทธาบูรณปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ ทั้งยังเป็นผู้สร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 3 องค์ 3 ศิลปะยุคไว้ในวิหารหลังใหญ่ของวัดอีกด้วย ได้แก่ พระพุทธนิมมิตวิชิตมารโมลีศรีเมืองทอง พระพุทธนิมิตรวิชิตมารโมลีศรีเมืองทอง และพระพุทธปฏิมา

วัดกำแพงแสน

ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลางในราวปี พ.ศ. 2120 เดิมชื่อ “วัดบันไดหมาก” เป็นวัดร้าง ต่อมามีชาวมอญกลุ่มหนึ่งอพยพมาตั้งรกรากอยู่ในบริเวณนี้และบูรณะวัดแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ตามแบบศิลปะมอญ จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “วัดกำแพงแสน” และอีกสมัยหนึ่งในช่วงปี พ.ศ. 2470 จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดป่าภาชี ต่อมาได้มีการบูรณะวัดใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ. 2520 จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “วัดกำแพงแสน” กลับมาอีกครั้งจนถึงปัจจุบัน

วัดม่วง

เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง ราวปี พ.ศ. 2120 เดิมชื่อ “วัดนาเหลือง” ภายในวัดมีพระอุโบสถเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนแบบศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้น ผนังด้านนอกมีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวพุทธประวัติและชาดกต่าง ๆ บริเวณหลังโบสถ์มีเจดีย์ย่อเหลี่ยมไม้สิบสอง หรือเจดีย์ทรงมอญ และมีศาลาการเปรียญขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านข้าง ภายในศาลาการเปรียญมีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวพุทธประวัติและชาดกต่าง ๆ ที่ยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และงดงามมาก